กรดเฟอรูลิกเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านการแก่ (aging)ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง โรคหัวใจ ไข้หวัด กรดเฟอรูลิก
เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่มีประสิทธิภาพสูงมากในเนื้อเยื่อของคนเวลาที่คนเราออกกำลังร่างกาย ซึ่งมีการใช้ออกซิเจนมาก
ในร่างกาย ในข้าวโพดหวาน ตามธรรมชาติจะมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์อยู่ และมีตัวที่สำคัญคือ กรดเฟอรูลิกในข้าวโพดดิบจะ แฝงตัวอยู่ในผนังเซลล์ของพืช อยู่ในรูปของกลูโคไซด์ (คือ สารที่น้ำตาลกลูโคสเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ข้าวโพดหวาน)
เมื่อข้าวโพดถูกต้มนานๆ สารแอนตี้ออกซิแดนท์และกรดเฟอรูลิกจะถูกปลดปล่อยออกมาเป็นอิสระ
นักวิจัยพบว่า ถ้าต้มข้าวโพดยิ่งนาน ปริมาณของสารแอนตี้
ออกซิแดนท์จะถูกปล่อยออกมามากขึ้น ถ้าต้มข้าวโพดที่ 115 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที ปริมาณของสารแอนตี้
ออกซิแดนท์จะเพิ่มขึ้น 21% ถ้าต้ม 25 นาที จะได้สารแอนตี้ออกซิแดนท์เพิ่มขึ้น 44% และถ้าต้ม 50 นาที จะได้เพิ่มถึง 53% แต่เมื่อวัดปริมาณเฉพาะกรดเฟอรูลิกที่ถูกปล่อยออกมาพบว่า กรดนี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 240% (เมื่อต้ม 10 นาที), 550%(เมื่อต้ม 25 นาที) และ 900%(เมื่อต้ม 50 นาที) คนจำนวนมาก ชอบกินข้าวโพดหวานดิบ เพราะเชื่อว่ามีสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ดี หลายตนชอบต้มเพียงพอสุก เพราะเกรง ความหวานจะหายไป ผลงานวิจัยนี้เสนอแนะให้ทราบว่า ข้าวโพดต้มมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ในแง่ของการให้สารแอนตี้ออกซิ แดนซ์ แม้ว่าวิตามินบางตัว เช่น วิตามินซี จะหายไปบ้าง อย่างไรก็ตามข้าวโพดก็ไม่ใช่แหล่งที่ดีสำหรับวิตามินซีอยู่แล้ว (ที่มา:http://www.redcross.or.th/pr/pr_news.php4?db=3&naid=490) |